ค้นพบมุมมืดของดวงจันทร์ไปกับ Omega Dark Side of The Moon

29 May 2023

Omega แบรนด์นาฬิกาที่โด่งดังในหลากหลายวงการไม่ว่าจะภาพยนตร์ หรือแม้กระทั่งวงการอวกาศ นอกเหนือจากบรรดา Omega James Bond และ  Omega Snoopy แล้ว วันนี้เราขอพาทุกท่านมารู้จักกับ Omega Dark Side of The Moon

Omega Speedmasterนับว่าเป็นหนึ่งในไอคอนที่เรียกว่ามีชื่อเสียงอย่างมหาศาลในประวัติศาสตร์ของวงการนาฬิกา หากเราย้อนเวลากลับไปในช่วงปี 1950 คุณจะพบว่า Speedmaster สามารถสร้างชื่อเสียงได้อย่างล้นหลามจากการเป็นหนึ่งในนาฬิกาที่องค์การสหประชาชาติอย่าง NASA เลือกใช้ อีกทั้งยังเป็นนาฬิกาข้อมือเรือนแรกที่ได้พุ่งทะยานไปสู่ดวงจันทร์ จารึกประวัติศาสตร์ใหม่ให้แก่วงการเรือนเวลา และด้วยชื่อเสียงที่ได้มาในครั้งนั้น Omega จึงรีบไขว่คว้าโอกาสในการผลิตนาฬิกาเรือนอื่น ๆ จากไลน์ Speedmaster ออกมาอีกจำนวนมากจนใคร ๆ ก็เป็นเจ้าของได้ “สิ่งที่เคยพิเศษจึงไม่พิเศษอีกต่อไป”

แต่ไม่ใช่กับ Omega Dark Side of The Moon
Omega dark side of the moon-may-2023-1
วัสดุใหม่ที่มาพร้อมการเคลื่อนไหวที่ล้ำกว่าเดิม
แตกต่างไปกับ Speedmaster Special Edition รุ่นอื่น ๆ Omega dark side of the moon นั้นมาพร้อมกับฟันเฟืองตัวใหม่ที่แตกต่างจากการใช้กรอบเซอร์โคเนียมออกไซด์เซรามิกอันทนทานและมีน้ำหนักเบาในปี 2013 Omega dark side of the moon รุ่น Original นั้นขับเคลื่อนด้วยกลไก OMEGA Co-Axial Calibre 9300 ที่นับว่าเป็นความสำเร็จแรกของแบรนด์ในการประกอบ in house Co-Axial Calibre ได้ภายในโรงงานของตัวเอง ซึ่งนาฬิกาเรือนนี้จะมีหน้าปัดย่อย 2 หน้าปัดและบอกวันที่ ณ ตำแหน่ง 6 นาฬิกา สำรองพลังงานได้ 60 ชั่วโมง นอกจากนี้ Omega dark side of the moon ยังดำรงตำแหน่งเป็นนาฬิการุ่นแรกของ Omega ที่มีซิลิโคนบาลานซ์สปริงอีกด้วย

ในส่วนของขนาดนาฬิกา Omega dark side of the moon มาในขนาด 44.25 มม. ซึ่งมีขนาดใหญ่กว่ารุ่น classic moonwatch เพียงเล็กน้อย แต่การมีหน้าปัดขนาดใหญ่เรียกได้ว่ามาในเวลาที่ถูกต้อง เพราะขานาฬิกาและน้ำหนักที่เบากว่าด้วยวัสดุอย่างเซรามิกและไทเทเนียมใน Omega dark side of the moon ช่วยทำให้น้ำหนักของนาฬิกาเรือนนี้ไม่ได้มีน้ำหนักที่มากกว่าหรือดูขนาดใหญ่กว่า Original Speedy จนเกินงาม

สำหรับ Omega dark side of the moon ในรุ่น original เริ่มแรกนั้นมาในสีที่ไม่ได้หลากหลายนัก แต่ไม่นานสีใหม่ ๆ ก็ถูกเพิ่มเข้าไปให้คอนาฬิกาได้สะสม เมื่อเปิดตัวครั้งแรกนั้นนาฬิการุ่นนี้จะมาใน 3 สี ได้แก่ White side of the moon อันมีความแปลกใหม่ไม่เหมือนใคร grey side of the moon ที่ถูกเพิ่มขึ้นมาในปี 2014 และสุดท้าย dark side of the moon รุ่นฮิตที่มาพร้อมเคสสีดำเซรามิกพร้อมด้วยตัวบอกและบ่งชี้เวลาสีขาวเพื่อให้อ่านค่าได้ง่าย จัดวางอย่างสวยงามบนหน้าปัด สะกดตาหลาย ๆ ท่านจนได้รับชื่อเสียงมากที่สุดในไลน์ of the moon และอีก 2 เวอร์ชันที่เป็นกระแสไม่แพ้กัน ได้แก่ Black Black, Sedna Black และ Bling-Bling Diamond
Omega dark side of the moon-may-2023-3
ดาร์กยิ่งกว่าด้วย OMEGA SPEEDMASTER DARK SIDE OF THE MOON “APOLLO 8”

และอย่างที่หลาย ๆ ท่านทราบ Omega ไม่เคยพลาดโอกาสที่จะปล่อยรุ่น Limited Edition ออกสู่ตลาด ไม่เว้นแม้กระทั่งรุ่นที่พิเศษอยู่แล้วอย่าง Omega Dark Side of The Moon

Omega dark side of the moon-may-2023-4
OMEGA SPEEDMASTER DARK SIDE OF THE MOON “APOLLO 8”

แม้ว่าปฏิบัติการ Apollo 8 จะไม่ได้ลงจอดที่พื้นผิวดวงจันทร์ แต่นักบินอวกาศของ NASA ก็ยังคงมีโอกาสในการลอยตัวอยู่ในห้วงอวกาศและโคจรรอบดวงจันทร์เพื่อสำรวจได้จนสำเร็จ อีกทั้งยังได้พบเจอกับมุมมืดของ satellite ที่ใหญ่ที่สุดของโลกเป็นครั้งแรกในคราวนั้น Omega dark side of the moon “Apollo 8” จึงถูกสร้างขึ้นเพื่อฉลองให้กับเหตุการณ์ในครั้งนี้ อีกทั้งยังมาพร้อมกับฟีเจอร์ดี ๆ ที่คุณไม่ควรมองข้าม

Omega dark side of the moon-may-2023-2
Omega dark side of the moon “Apollo 8” เปลี่ยนกลไก 9300 อัตโนมัติเป็นระบบไขลานภายใต้ชื่อ Calibre 1869 ตัวเลข 2 หลักสุดท้ายของ Calibre มาจากปี 1969 ที่ปฏิบัติการ Apollo เกิดขึ้น Calibre 1869 นั้นค่อนข้างคล้ายคลึงกันกับ Calibre 1816 อันมีแม่แบบมาจาก Lemania 1873 ในส่วนของหน้าปัดมาในแบบเปลือย อีกทั้งยังถูกสร้างให้เหมือนกับการมองพื้นผิวดวงจันทร์ที่ช่วยเสริมให้นาฬิกาเรือนนี้น่าสะดุดตาและน่ามอง ขนาดและส่วนอื่น ๆ นั้นเท่ากันกับ Omega dark side of the moon รุ่น original สามารถมองเห็น Calibre 1869 ได้ผ่านกระจกแซปไฟร์ที่ฝาหลังของนาฬิกา

เรียกได้ว่า Omega dark side of the moon มาพร้อมเรื่องราว ประวัติ รวมถึงกลไกและดีไซน์ที่พิเศษกว่า Omega Speedmaster เรือนอื่น ๆ จึงไม่น่าแปลกใจหากนาฬิการุ่นนี้จะได้รับความสนใจมากเป็นพิเศษ หากคุณต้องการตามหา ส่งต่อ ซื้อขายนาฬิกาเรือนนี้ในราคาคุณภาพ สามารถติดต่อเรา Siam Watch Club หรือรับชมคอลเล็กชันนาฬิกา Omega จากเราได้เช่นกัน

REFERENCE
Vintagewatchinc

บทความนาฬิกาอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Other Blogs

Royal Oak Selfwinding 34mm

Audemars Piguet Royal Oak รุ่นใหม่ 4 สี 4 สไตล์

ในปี 2024 นี้แบรนด์ต่างๆได้มีการเปิดตัวนาฬิการุ่นใหม่กันมากมายและแบรนด์ยอดนิยมอย่าง Audemars Piguet ก็เช่นเดียวกัน โดยวันนี้ Siam Watch Club จะขอนำนาฬิกาสวยๆจากคอลเลกชั่น Royal Oak ของปีนี้มาให้ทุกท่านได้ชมกัน 

Read More »
Panerai luminor due burgundy

Panerai Luminor Due PAM01424 เฉดสีแดงเบอร์กันดีเพิ่มเสน่ห์

Panerai Luminor Due PAM01424 รุ่นใหม่ของคอลเลกชั่น Luminor Due ที่มาพร้อมหน้าปัดสีแดงเบอร์กันดีอันโดดเด่นให้ความสมดุลระหว่างความแข็งแกร่งและความหรูหรา

Read More »

ค้นพบมุมมืดของดวงจันทร์ไปกับ Omega Dark Side of The Moon

Omega dark side of the moon-may-2023-0

Share This Post

Subscribe To Our Newsletter

Get updates and learn from the best

More To Explore

Royal Oak Selfwinding 34mm
Articles

Audemars Piguet Royal Oak รุ่นใหม่ 4 สี 4 สไตล์

ในปี 2024 นี้แบรนด์ต่างๆได้มีการเปิดตัวนาฬิการุ่นใหม่กันมากมายและแบรนด์ยอดนิยมอย่าง Audemars Piguet ก็เช่นเดียวกัน โดยวันนี้ Siam Watch Club จะขอนำนาฬิกาสวยๆจากคอลเลกชั่น Royal Oak ของปีนี้มาให้ทุกท่านได้ชมกัน 

Do You Want To Boost Your Business?

drop us a line and keep in touch