เรื่องราวของ Iconic แห่งวงการนาฬิกา Zenith’s El Primero

26 January 2023

สัญลักษณ์ของความเที่ยงตรงที่ครอบครองใจผู้ชื่นชอบนาฬิกาไขลานหลาย ๆ ท่าน และนี่คือเรื่องราวของ iconic แห่งวงการนาฬิกา Zenith’s El Primero

ในปี 1969 ได้ก่อกำเนิดนาฬิกาโครโนกราฟระบบอัตโนมัติ ความถี่สูง ที่ถูกผสานรวมกันอย่างลงตัวเป็นเรือนแรกภายใต้ชื่อ “El Primero” ซึ่งตลอดระยะหลายปีที่นาฬิการะบบนี้นับได้ว่าเป็นนาฬิกาที่แม่นยำที่สุดในโลก อีกทั้งยังเป็นสัญลักษณ์ของความเที่ยงตรงที่ครอบครองใจผู้ชื่นชอบนาฬิกาไขลานหลาย ๆ ท่านมาโดยตลอด และนี่คือ เรื่องราวของ iconic แห่งวงการนาฬิกา “Zenith’s El Primero”
iconic แห่งวงการนาฬิกา Zenith’s El Primero-1
สำหรับนักวิทยาศาสตร์ ปี 1969 จะถูกจารึกไว้ว่าเป็นปีของประวัติศาสตร์ชาติมนุษย์ที่เราได้มีก้าวแรกบนดวงจันทร์ แต่สำหรับผู้หลงใหลในเรือนเวลานั้นตรงกันข้าม เพราะในปี 1969 คือปีที่ตำนานบทใหม่แห่งวงการนาฬิกาได้ถูกจารึกขึ้นมาอีกครั้งด้วยการกำเนิดของ Caliber หรือกลไกอันเป็นจุดเริ่มต้นของนาฬิกาไขลานสุดแม่นยำของ Zenith โดยเมื่อวันที่ 10 มกราคม พ.ศ. 2512 ก่อนที่จะเกิดวิกฤตควอตซ์ Zenith กลับพลิกช่วงใกล้วิกฤตให้กลายเป็นโอกาสด้วยการเปิดตัวนาฬิกาโครโนกราฟระบบอัตโนมัติ ความถี่สูงภายใต้ชื่อรหัส 3019PHC และได้สร้างชื่อเสียงให้กับ Zenith ด้วยชื่อ “El Primero” ซึ่งมีความหมายว่า “ครั้งแรก” ในภาษาเอสเปรันโต
iconic แห่งวงการนาฬิกา Zenith’s El Primero-2
Zenith ผู้เด็ดเดี่ยว
ย้อนกลับไปในช่วงปี 1960 นาฬิกาโครโนกราฟนั้นนับว่าเป็นตัวตึงที่มีการแข่งขันสูงสุด หลาย ๆ แบรนด์ต่างพยายามพัฒนากลไกมากมายเพื่อตอบโจทย์ความแม่นยำและความเป็นที่ 1 ของวงการนาฬิกาที่มีความเที่ยงตรง ซึ่งในตอนนั้น Zenith ก็สามารถออกตัวได้ว่านำหน้าแบรนด์อื่น ๆ ด้วยเทคโนโลยีโครโนกราฟในนาฬิกาบางรุ่นที่เหนือกว่าเจ้าอื่น ๆ ได้พอสมควรแล้ว แต่หากกล่าวถึงกลไกอัตโนมัติ Zenith นั้นยังไม่ใช่คำตอบที่หลาย ๆ ท่านตามหา จนกระทั่งการเข้าซื้อกิจการของ Martel Watch Company ตั้งแต่ปี 1959 จวบจนมาถึงปี 1965 อันเป็นปีแห่งการฉลองครบรอบ 100 ปีของการก่อตั้งแบรนด์ Zenith ในโอกาสนี้บริษัทตั้งเป้าหมายไว้ที่การพัฒนากลไกใหม่ ๆ โดยพวกเขาต้องการจะผลิตนาฬิกาข้อมือโครโนกราฟระบบอัตโนมัติเรือนแรกที่สมบูรณ์แบบที่สุด โดยนาฬิกาเหล่านั้นจะต้องมี column wheel และ central rotor ที่บริเวณตลับลูกปืนนาฬิกา แต่อย่างที่ทราบกันว่าการพูดนั้นง่ายกว่าการทำให้สำเร็จเป็นไหน ๆ เพราะการจะทำให้นาฬิกาที่เคลื่อนไหวด้วยความถี่ 36,000 vph. สามารถสำรองพลังงานได้อย่างน้อย 50 ชั่วโมง มีระบบไขลานอัตโนมัติทั้งสองทิศทาง และบางพอที่จะสวมใส่บนข้อมือได้นั้นไม่ใช่เรื่องง่าย

และด้วยระยะเวลา 100 ปีที่ผ่านไป แบรนด์ก็ยังไม่มีนาฬิกาที่เขาตั้งเป้าไว้ผลิตออกมาเสียที ใคร ๆ ก็ต่างคิดว่านี่คงถึงทางตันของช่างทำนาฬิกา Zenith เสียแล้ว อีกทั้งในปี 1967 ก็มีกระแสข่าวออกมาว่าทาง Breitling, Hamilton-Büren, Dubois-Dépraz และ Heuer-Léonidas ได้จับมือกันร่วมพัฒนาอะไรบางอย่างอยู่ ซึ่งนับว่าเป็นอีกหนึ่งคู่ต่อสู้ที่ Zenith จะต้องเผชิญ

ไม่ว่าเส้นทางแห่งการผจญภัยเพียงผู้เดียวจะยากลำบากและหนาวเหน็บแค่ไหน แต่ Zenith ก็ต้องรีบออกวิ่งให้ถึงเส้นชัยก่อนใคร หรือไม่เช่นนั้นเขาเองก็เสี่ยงที่จะพลาดการได้ตำแหน่งสำคัญบนโพเดียมแห่งกาลเวลา

ท้ายที่สุดในวันที่ 10 มกราคม 1969 Zenith ก็วิ่งเข้าสู่เส้นชัยเป็นอันดับที่ 1 “El Primero” ถูกเปิดเผยสู่สายตาชาวโลก วงการนาฬิกาต่างยอมรับในความสามารถของ Zenith โดยไม่มีข้อกังขา ยอดสั่งซื้อนาฬิกามีเข้ามาอย่างไม่ขาดสาย และในขณะที่แบรนด์กำลังไปได้สวย วิกฤตการณ์ควอตซ์ก็โผล่เข้ามาขวางทาง อีกทั้งยังพร้อมที่จะทำลายวงการนาฬิกาสวิสให้ราบคาบ แล้วเช่นนี้นาฬิกาจักรกลนั้นจะยังคงมีความหมายและคุณค่าอะไรให้ยืนยงอยู่คู่วงการนาฬิกาต่อไป?

ถึงเวลากล่าวคำลา
ในปี 1975 Zenith Radio Corporation (Le Locle Zenith ถูกขายให้กับบริษัทอเมริกันในปี 1971) ประกาศยุติการผลิตกลไกการเคลื่อนไหวของนาฬิกา รวมทั้งยุติการผลิต El Primero โดยเครื่องมือ เครื่องจักร และส่วนประกอบต่าง ๆ จะถูกขายเป็นเศษเหล็ก กลไกต่าง ๆ ที่กำลังพัฒนาหรือกำลังอยู่ในกระบวนการผลิตถูกติดฉลากและจัดเก็บเอาไว้ และนี่คือจุดจบของ Caliber ที่ Zenith ตั้งใจจะทำให้กลายเป็นนาฬิกาที่มีความเที่ยงตรงที่สุด
iconic แห่งวงการนาฬิกา Zenith’s El Primero-3
อย่างที่เราทราบกันดีว่าในการผลิตนาฬิกานั้น มีอึกหนึ่งฮีโร่ที่ไม่ได้ถูกสรรเสริญอย่าง Charles Vermot ผู้กล้าหาญ เขาใช้เวลาตลอดทั้งเส้นทางอาชีพของเขาใน Zenith คอยช่วยเหลือแบรนด์ในทุกย่างก้าวตั้งแต่การประดิษฐ์ไปจนถึงการติดฉลากชิ้นส่วน เขารื้อบรรดาเครื่องจักรทั้งหมดออก เก็บงำความลับของ Zenith ซ่อนไว้ในที่ที่ไม่มีใครหาเจอ ท้ายที่สุดสมบัติแห่งเวลาเหล่านี้จึงไม่สูญหายไป เกือบหนึ่งทศวรรษผ่านไปก่อนที่ El Primero จะสามารถลุกขึ้นยืนจากธุลีดินได้อีกครั้ง Ebel เป็นคนแรกที่ได้ปรับใช้ El Primero เข้ากับนาฬิการุ่นต่าง ๆ จากนั้น Rolex ก็เลือกใช้ El Primero ในนาฬิการุ่น Daytona Chronograph โดยมีการดัดแปลงถึง 200 แบบ อีกทั้ง Panerai, Boucheron และ Daniel Roth ก็ต่างใช้ประโยชน์จากประสิทธิภาพของ El Primero ด้วยเช่นกัน จนกระทั่ง LVMH เจ้าของคนใหม่ของ Zenith นั้นตัดสินใจสงวนผลประโยชน์ของ El Primero ไว้เฉพาะสำหรับบริษัทของตัวเอง
iconic แห่งวงการนาฬิกา Zenith’s El Primero-4
A high-flying caliber
มีเหตุผลนานับประการที่ทำให้ El Primero เป็นที่ต้องการอย่างมากตั้งแต่แรกเริ่ม ประการแรก Zenith ทำให้นาฬิกานั้นมีหน้าปัดที่น่าจดจำด้วยหน้าปัดแบบสามสี ซึ่งมีผลในการช่วยให้ผู้ใช้สามารถอ่านค่าต่าง ๆ ได้ง่ายกว่าใคร และเพื่อพิสูจน์ว่า Zenith ไปได้ไกลแบบสุดขั้ว นาฬิกาของเขาสามารถเดินทางขึ้นไปพร้อมกันกับเครื่องบิน Boeing 707 จากปารีสและลงจอดที่นิวยอร์กในสภาพที่สมบูรณ์และตรงเวลา จวบจนกระทั่งปี 2012 El Primero Stratos Flyback Striking 10th ได้ทำลายกำแพงของความเร็วเสียงด้วยการไปอยู่บนข้อมือของ Felix Baumgartner นักดิ่งพสุธาผู้มาพร้อมฉายา “เร็วเหนือเสียง” ซึ่งเขาเป็นตำนานแห่งการกระโดดร่มจากที่ต่าง ๆ แม้กระทั่งจากนอกอวกาศ!

El Primero เรียกว่าเป็นรากฐานที่ Zenith ได้วางไว้ให้กับวงการนาฬิกา นอกจากนั้นยังสร้างชื่อเสียง สร้างความแข็งแกร่งและเป็นต้นฉบับความแม่นยำจากปี 1969 จวบจนถึงทุกวันนี้ El Primero ถูกนำไปปรับแต่ง พัฒนาด้วยกลไกซับซ้อนมากมายจนเกิดเป็นกลไกใหม่ ๆ อันน่าทึ่ง ไม่ว่าจะเป็นตูร์บิยง ระบบวันที่ กลไกเสี้ยววินาที ตัวทวนเข็มนาที นาฬิกาปลุก ระบบนับวันแบบถอยหลัง และเข็มวินาทีแบบกระโดด เรียกว่าเป็นบ่อเกิดแห่งกลไกนาฬิกาต่าง ๆ มากมายไม่แพ้กัน และถึงแม้ว่า El Primero รุ่นดั้งเดิมอาจจะไม่ใช่นาฬิการุ่นที่แม่นยำที่สุดอีกต่อไป แต่สำหรับเรื่องราวที่ถูกจารึกไว้นั้นนับเป็นตำนานที่ไม่มีผู้ใดปฏิเสธได้ สำหรับผู้ที่สะสมนาฬิกาและผู้ที่หลงใหลในกลไกอันแสนสง่าและสวยงาม El Primero ก็ยังคงเป็นคำตอบที่หลาย ๆ ท่านตามหาอยู่เสมอ


ขอบคุณข้อมูลจาก watchesandculture


บทความนาฬิกาอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Other Blogs

Rolex Cosmograph Daytona

Rolex ทำลายสถิติด้วยยอดขายทะลุ 10,000 ล้านฟรังก์สวิส

รายงานประจำปี 2023 เกี่ยวกับอุตสาหกรรมนาฬิกาสวิส ในปีนี้ผู้ชนะอย่างแท้จริงก็คือ Rolex อีกครั้ง และยังเป็นบริษัทแรกที่บันทึกรายได้โดยประมาณที่มากกว่า 10,000 ล้านฟรังก์สวิส (ประมาณสี่แสนล้านบาท) เป็นการแสดงให้เห็นถึงการแบ่งแยกขั้วของตลาดที่รุนแรงกว่าที่เคย  

Read More »
Omega Moon Swatch

Omega MoonSwatch: Snoopy กับภารกิจบน Moonphase

กระแสความนิยม Omega MoonSwatch ยังคงดำเนินมาตั้งแต่ปี 2024  ตอนนี้เราจะเฉลิมฉลองครบรอบสองปีด้วย Snoopy moonphase จาก MoonSwatch!
หลังจากที่ Siam Watch Club ได้นำเสนอการเปิดตัว Omega Speedmaster Moonwatch หน้าปัดสีขาว ครั้งนี้เราขอต่อด้วย MoonSwatch: Snoopy กับภารกิจบน Moonphase กันเลย

Read More »
Omega Speedmaster Moonwatch White dial

เปิดตัว Omega Speedmaster Moonwatch หน้าปัดสีขาวอย่างเป็นทางการ

คุณอาจเคยเห็นนาฬิกาเรือนนี้มาบ้างแล้ว… แต่ก่อนหน้านี้ มันยังไม่เปิดตัวอย่างเป็นทางการ เป็นเวลานานหลายทศวรรษนอกเหนือจากรุ่นพิเศษและรุ่นลิมิเต็ดอิดิชั่นแล้ว Omega Speedmaster Moonwatch Professional แบบสแตนเลสสตีล ​​มักจะมาพร้อมกับหน้าปัดสีดำ

Read More »

เรื่องราวของ Iconic แห่งวงการนาฬิกา Zenith’s El Primero

iconic แห่งวงการนาฬิกา Zenith’s El Primero-0

Share This Post

Subscribe To Our Newsletter

Get updates and learn from the best

More To Explore

Rolex Cosmograph Daytona
Articles

Rolex ทำลายสถิติด้วยยอดขายทะลุ 10,000 ล้านฟรังก์สวิส

รายงานประจำปี 2023 เกี่ยวกับอุตสาหกรรมนาฬิกาสวิส ในปีนี้ผู้ชนะอย่างแท้จริงก็คือ Rolex อีกครั้ง และยังเป็นบริษัทแรกที่บันทึกรายได้โดยประมาณที่มากกว่า 10,000 ล้านฟรังก์สวิส (ประมาณสี่แสนล้านบาท) เป็นการแสดงให้เห็นถึงการแบ่งแยกขั้วของตลาดที่รุนแรงกว่าที่เคย  

Omega Moon Swatch
Articles

Omega MoonSwatch: Snoopy กับภารกิจบน Moonphase

กระแสความนิยม Omega MoonSwatch ยังคงดำเนินมาตั้งแต่ปี 2024  ตอนนี้เราจะเฉลิมฉลองครบรอบสองปีด้วย Snoopy moonphase จาก MoonSwatch!
หลังจากที่ Siam Watch Club ได้นำเสนอการเปิดตัว Omega Speedmaster Moonwatch หน้าปัดสีขาว ครั้งนี้เราขอต่อด้วย MoonSwatch: Snoopy กับภารกิจบน Moonphase กันเลย

Do You Want To Boost Your Business?

drop us a line and keep in touch