เจาะเรื่องราวเบื้องหลัง 2 นาฬิกาดังจาก Chanel

8 มีนาคม 2023

#SWCollector ขอพาทุกท่านมาพบกับเรื่องราวของเบื้องหลังของ 2 นาฬิกาดังจาก CHANEL ที่เป็นกระแสไม่แพ้กันกับกระเป๋า จะเป็นอย่างไร ไปดูกัน

หากพูดถึง CHANEL หลาย ๆ ท่านอาจจะไม่ได้นึกถึงนาฬิกาเป็นอย่างแรก แต่แท้จริงแล้วนอกเหนือจากการเป็นดาวเด่นในวงการแฟชันทั้งมวล นาฬิกา CHANEL ก็เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ฮอตฮิตไม่แพ้กระเป๋า เสื้อผ้าหรือเครื่องสำอาง สำหรับเรื่องราวในต่อไปนี้ เราขอพาทุกท่านพบกับเรื่องราวของเบื้องหลังของ 2 นาฬิกาดังจาก CHANEL ที่เป็นกระแสมาไม่เคยขาด จะเป็นอย่างไร ไปดูกัน

CHANEL BOY∙FRIEND

นอกเหนือจากกระเป๋า CHANEL BOY อันเป็นที่พูดถึงกันทั่วบ้านทั่วเมืองแล้ว นาฬิกา CHANEL BOY∙FRIEND ก็เป็นอีกหนึ่งความสง่าและคงค่าความเป็นเจ้าแม่แฟชันตั้งแต่เปิดตัวในปี 2015 ซึ่งนับว่าเป็นอีกวิธีการเฉลิมฉลองให้กับการผลิตนาฬิกาได้อย่างสง่างามและหรูหราตามสไตล์ CHANEL นอกจากนั้นแล้วดีไซน์และองค์ประกอบอันทรงพลังดั่งยกออกมาจากตู้เสื้อผ้าของสุภาพบุรุษก็ล้วนแล้วแต่ใกล้เคียงกับคอนเซปต์ Mademoiselle Chanel เช่นกัน สร้างปรากฏการณ์ใหม่ให้กับวงการนาฬิกาด้วยการออกแบบที่สื่อถึงความสุขุมและสุนทรียภาพการประดิษฐ์อันประณีต งดงาม รวมไปถึงสายนาฬิกาที่แข็งแรงและรูปทรงอันเป็นเอกลักษณ์ การออกแบบของนาฬิกา CHANEL เรือนนี้เป็นทั้งนาฬิการ่วมสมัยและคลาสสิก ในขณะเดียวกันก็เรียกได้ว่าเป็นทุกอย่างให้กับนิยามคำว่า “สไตล์” ทั้งความสมดุล สัดส่วนการปรับแต่งและรายละเอียดต่าง ๆ

นาฬิกา CHANEL BOY·FRIEND เป็นการผสมผสานที่น่าดึงดูดใจระหว่างความกล้าหาญและความยับยั้งชั่งใจ ความหรูหราสุดขั้วที่กล้าที่จะท้าทายกฎเกณฑ์เก่า ๆ ที่ถูกกำหนดไว้ เป็นการลบเส้นแบ่งระหว่างสไตล์ผู้ชายและผู้หญิงด้วยความ UNISEX ของนาฬิกาที่ไม่ว่าจะอยู่บนข้อมือใคร ก็ทันสมัยสุด ๆ

ด้วยชื่อของนาฬิกาที่แตกต่าง จึงทำให้รู้ได้เลยว่านาฬิกาเรือนนี้ถูกผลิตมาจากช่างนาฬิกาผู้หญิง เป็นอีกนิยามใหม่ของวงการนาฬิกาที่มักจะเป็นช่างนาฬิกาผู้ชายเสียส่วนใหญ่ วันนี้มาดูกันว่า 2 นาฬิกา CHANEL BOY∙FRIEND จะมีความพิเศษอย่างไรบ้าง

1. A small model in steel
2. A medium model in steel set with diamonds.

SMALL SIZE
ตัวเรือนและกรอบแบบสตีล มาพร้อมกับ Steel crown ประดับด้วย Spinel cabochon หน้าปัด Guilloché สีโอปอล สายหนังลูกวัวลาย Quilted สีดำ (เปลี่ยนได้) และหัวเข็มขัดสตีลแบบ Ardillon เคลื่อนไหวด้วยระบบควอทซ์ที่มีความแม่นยำสูง สามารถกันน้ำลึกได้ 30 เมตร ฟังก์ชันบอกเวลาแบบชั่วโมงและนาที
ขนาดนาฬิกา: 27.9 x 21.5 x 6.2 mm.

MEDIUM SIZE
กรอบตัวเรือนแบบสตีลประดับเพชรเจียระไนแบบเหลี่ยมเกสร 64 เม็ด (~0.71 กะรัต) เม็ดมะยมสตีลประดับด้วย Spinel cabochon หน้าปัดลาย Guilloché สีโอพาลีน มีตัวนับวันที่ มาพร้อมสายหนังลูกวัวลาย Quilted สีดำ (เปลี่ยนได้) หัวเข็มขัดสตีลแบบ Ardillon เคลื่อนไหวด้วยระบบควอทซ์ที่มีความแม่นยำสูง สามารถกันน้ำลึกได้ 30 เมตร ฟังก์ชันบอกเวลาแบบชั่วโมงและนาที

ขนาด : 34.6 x 26.7 x 7.3 มม.
เพชร: เพชรเจียระไนแบบเหลี่ยมเกสร 64 เม็ด (~0.71 กะรัต)
ด้วยนาฬิกา CHANEL สองเรือนนี้ ทำให้ CHANEL ได้นำเสนอภาพลักษณ์อันหรูหราเหนือกาลเวลาของการผลิตนาฬิกาที่มีเสน่ห์ดึงดูดมากมาย นาฬิกาเหล่านี้ยังสามารถดึงดูดผู้สวมใส่ที่อายุน้อยกว่าแบรนด์อื่น ๆ ได้เนื่องจากการออกแบบรูปทรงนาฬิกาและสายนาฬิกาที่ดูร่วมสมัย แม้รูปทรงนาฬิกาจะเป็นทรงเหลี่ยม แต่กลับไม่ซ้ำใคร สร้างความโดดเด่นได้อย่างดี

นาฬิกา CHANEL BOY∙FRIEND นั้นได้รับการขนานนามว่าเป็นการแสดงอิสรภาพ ความบริสุทธิ์ และความทันสมัย สานต่อเรื่องราวความสำเร็จและเติมเต็มแค็ตตาล็อกของ CHANEL ได้อย่างสมบูรณ์

CHANEL J12

อีกหนึ่งนาฬิกา CHANEL ที่คุณไม่ควรพลาด เปิดตัวครั้งแรกในปี 1999 ซึ่งนับว่าเป็นการสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ให้กับการผลิตนาฬิกา CHANEL เช่นกัน ซึ่ง J12 ได้รับแรงบันดาลใจมาจากการแข่งขันเรือใบ โดดเด่นด้วยการนำเซรามิกมาผลิตเป็นนาฬิกา และแน่นอน ความ UNISEX ที่คุณหาได้จากนาฬิกา CHANEL เท่านั้น

อย่างที่กล่าวไปว่านาฬิกา CHANEL J12 นั้นได้รับแรงบันดาลใจมาจากการแข่งขันเรือใบ ซึ่งนั่นก็คือ Silhouettes ของเรือยอชต์ที่ลงแข่งในงาน The America’s Cup ถูกออกแบบโดย Jacques Helleu ผู้อำนวยการฝ่ายศิลป์ในตอนนั้น อีกทั้งยังเป็นการทำลายกำแพงทางเพศของนาฬิกาด้วยการใช้เซรามิกมาผลิต ซึ่งนาฬิกา CHANEL J12 ก็กลายเป็นนาฬิกาเซรามิกที่ได้รับความนิยมและเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางอีกทั้งยังขายดีที่สุดในบรรดาสินค้าหรูหราของประเทศฝรั่งเศส

และในปี 2000 J12 คอลเล็กชันใหม่ก็ถูกเปิดตัวขึ้นด้วยดีไซน์สีดำล้วน รูปลักษณ์โฉบเฉี่ยว สปอร์ต เข้ากับทุกการแต่งตัว อีกทั้งยังมีคุณสมบัติป้องกันรอยขีดข่วนและมีความแข็งแรงทำให้ได้รับการยกย่องจากผู้ผลิตนาฬิกาว่า J12 เป็นนาฬิกาสมัยใหม่ที่มีความโดดเด่นที่สุดในขณะนั้น และต่อมาในปี 2003 คอลเล็กชันขาวล้วนก็ถูกเปิดตัวออกมาสู่สายตาชาวโลก การผลิตนาฬิกา CHANEL เรือนนี้ไม่ได้เป็นไปโดยง่าย เพราะมีการสร้างรูปแบบจำลองที่แตกต่างกันถึง 500 แบบเพื่อสร้าง J12 เพียงแค่ 1 เรือน ใช้ผงเซรามิกสีขาวและดำ ผ่านความร้อน ณ อุณหภูมิกว่า 1,300 องศา ขัดเงาอย่างพิถีพิถัน อีกทั้งยังน้ำหนักเบากว่า และแข็งแรงกว่า Steel ถึง 7 เท่า!

และเมื่อปี 2005 CHANEL ก็ได้เปิดตัวนาฬิกา J12 Tourbillion เป็นรุ่น Limited Edition ที่รวมกลไกไขลานด้วยมือเข้ากับแผ่นเซรามิกที่ไม่เคยมีใครทำมาก่อน สร้างเสียงฮือฮาได้อีกเช่นเคย นาฬิการุ่นหลัง ๆ ของ CHANEL J12 ใช้กลไก The Calibre 12.1ซึ่งเป็นกลไกอัตโนมัติที่สำรองพลังงานได้ 70 ชั่วโมง ประกอบกับเม็ดมะยมแบบขันเกลียว ผ่านการทดสอบใต้น้ำกว่า 200 เมตร ซึ่งนาฬิกา CHANEL J12 นั้นจะถูกตรวจเช็กกว่า 100 ครั้ง ก่อนที่จะถูกส่งต่อไปจัดจำหน่ายเพื่อการันตีถึงคุณภาพของแบรนด์

นอกจากนี้ในปี 2011 CHANEL ยังได้ร่วมกันกับ AUDEMARS PIGUET พัฒนาเซรามิกรุ่น AP-3125 ที่มีเฉพาะใน CHANEL เท่านั้นอีกด้วย ถูกปล่อยออกมาภายใต้ J12 Calibre 3125 ใช้วัสดุเป็นเซรามิกสีดำขัดเงาที่มาพร้อม Rose Gold 18k และกระจกคริสตัลแซปไฟร์ ด้านหลังแสดงกลไกการเคลื่อนไหวอัตโนมัติจาก AP
J12 ยังคงพัฒนามาต่อเนื่องหลังจากนั้น เรียกว่าท่านใดที่เป็นสายนาฬิกาที่ใส่ได้กับทุกลุค ให้ความ Unisex มีความแฟชัน นาฬิกา CHANEL ก็นับเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ควรค่าไม่แพ้แบรนด์อื่น ๆ
ตามหานาฬิกา CHANEL ? ติดต่อเรา Siam Watch Club ได้ที่ LINE ID: @siamwatchclub ร้านนาฬิกาแบรนด์แท้มือสอง อันดับ 1 รับซื้อ ขาย ส่งต่อนาฬิกาแบรนด์แท้มือสองคุณภาพดี จากกูรูนาฬิกาตัวจริง

References:
Luxuryactivis
style.katexoxo

บทความนาฬิกาอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Other Blogs

เจาะเรื่องราวเบื้องหลัง 2 นาฬิกาดังจาก Chanel

Share This Post

Subscribe To Our Newsletter

Get updates and learn from the best

More To Explore

บทความ

ทำไม Roger Dubuis Hommage Condottieri จึงเป็นที่ต้องการของนักสะสม

Tom 19 เมษายน 2024

บทความ

5 สุดยอด Audemars Piguet Royal Oak จากทุกทศวรรษ

Tom 16 เมษายน 2024

แบรนด์นาฬิกา (A-C)

แบรนด์นาฬิกา (D-H)

แบรนด์นาฬิกา (I-P)

แบรนด์นาฬิกา (R-Z)