Rolex Datejust 101 คู่มือละเอียดยิบก่อนตัดสินใจซื้อ

22 พฤศจิกายน 2023

แน่นอนว่าเมื่อพูดถึงแบรนด์ Rolex แฟนนาฬิกาหลายคนมักจะคิดถึงรุ่นสุดฮิตอย่าง Daytona และ Submariner เป็นอย่างแรก เพราะมันเป็นรุ่นยอดนิยมที่ติดหูเรามากที่สุด แต่รู้ไหมว่าแท้จริงแล้ว Rolex Datejust เป็นนาฬิการุ่นที่ขายดีที่สุดนับตั้งแต่การเปิดตัวในปี 1945 และยังคงได้รับความนิยมอย่างล้นหลามจนถึงปัจจุบันนี้ เนื่องด้วยดีไซน์ที่สวยงามไร้กาลเวลาสามารถตอบสนองความต้องการได้ทุกรสนิยม

Rolex Datejust จึงเป็นนาฬิกาอีกรุ่นที่ Siam Watch Club อยากแนะนำให้ทุกท่านมีไว้ครอบครองอย่างน้อยสักหนึ่งเรือน แต่ก่อนจะได้ตัดสินใจเก็บเจ้านาฬิกาคลาสสิกรุ่นนี้มาไว้ในคอลเลคชัน เราอยากจะพาทุกท่านย้อนไปถึงประวัติความเป็นมาของมัน และรายละเอียดต่าง ๆ ที่ควรรู้ไว้ก่อนตัดสินใจซื้อ

ไล่เรียงไทม์ไลน์ที่น่าสนใจของ Rolex Datejust โดยสังเขป

อย่างที่เราทราบกันดีว่า Rolex Datejust ถูกเปิดตัวในปี 1945 ในฐานะที่เป็นนาฬิกาข้อมือเรือนแรกที่สามารถเปลี่ยนวันที่โดยอัตโนมัติเมื่อผ่านเวลาเที่ยงคืนไป ไม่จำเป็นต้องปรับด้วยตัวเองเหมือนรุ่นก่อน ๆ
1945 – Rolex ได้สร้าง Datejust ขึ้นมาเพื่อเฉลิมฉลองเนื่องในโอกาสครบรอบ 40 ปีของแบรนด์ พร้อมคุณสมบัติเปลี่ยนวันที่อัตโนมัติ มาพร้อมกับสายนาฬิกาแบบพิเศษที่เรียกว่า Jubilee
1953 – Rolex เพิ่มเลนส์ Cyclops เข้าไปเหนือช่องวันที่ เพื่อปรับปรุงความสามารถในการอ่านเวลาให้ได้ชัดเจนมากยิ่งขึ้น
1954 – Rolex เปิดตัว Turn-O-Graph ฟังก์ชันหน้าปัดหมุนได้ ซึ่งเป็นนวัตกรรมใหม่เอี่ยมที่น่าตื่นตาตื่นใจที่สุดในสมัยนั้น
1957 – Rolex เปิดตัว Datejust Lady พร้อมอัปเกรดความเสถียรของการบอกวันที่ให้แม่นยำกว่าเดิม
1960 – Rolex เปิดตัว Datejust หน้าปัดขนาดกลาง 31 มม. เป็นขนาดระหว่าง Lady-Datejust และ Men’s Datejust ถือเป็นนาฬิกา Unisex รุ่นแรก ๆ ของ Rolex ก็ว่าได้
1977 – Rolex เปิดตัว Oysterquartz Datejust Rolex เพื่อรองรับวิกฤตนาฬิกาควอตซ์จากญี่ปุ่นที่ได้รับความนิยมเหนือนาฬิกาสวิส
2009 – Datejust II รุ่นใหม่แกะกล่องถูกวางจำหน่าย พร้อมตัวเรือนขนาด 41 มม. นับเป็นครั้งแรกตั้งแต่ 1945 ที่ Datejust มีขนาดตัวเรือนใหญ่กว่า 36 มม.
2015 – Lady-Datejust 28 มาแทนที่ Lady-Datejust 26 เพื่อตอบสนองความต้องการของนาฬิกาขนาดใหญ่ที่กำลังได้รับความนิยม
2016 – Datejust 41 มาแทนที่ Datejust II โดยยังคงตัวเรือนขนาด 41 มม. เหมือนเดิม แต่มีสัดส่วนที่ใกล้เคียงกับ Datejust แบบคลาสสิกมากขึ้น
ฟังก์ชันสำคัญที่ควรรู้

แม้จะมีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 70 ปี แต่การออกแบบของ Rolex Datejust ไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปมากนัก ยังคงวิถีดีไซน์ดั้งเดิมเอาไว้ แต่ได้ปรับเปลี่ยนคุณสมบัติบางประการให้เข้ากับคอลเลคชันต่าง ๆ เช่น สายแบบ Jubilee เลนส์ Cyclops การผสมสายโลหะทูโทนที่เรียกว่า Rolesor และอีกมากมาย

โดย Datejust ถือเป็นคอลเลคชันที่มีความหลากหลายด้านดีไซน์มากที่สุด แต่ถึงอย่างนั้นเราก็สามารถจดจำได้ทันทีเสมอ ด้วยรูปลักษณ์อันเป็นเอกลักษณ์ที่ไม่เหมือนใคร
Oyster Case

ถูกสร้างขึ้นโดย Rolex ในปี 1926 เป็นตัวเรือนแบบกันน้ำเรือนแรกของโลกที่สร้างขึ้นสำหรับนาฬิกาข้อมือ มีความทนทานสูงจากการผลิตที่ละเมียดละไม ทั้งการขันสกรูยึดกรอบ ฝาหลังและเม็ดมะยมกับตัวเรือนตรงกลาง ช่วยปกป้องการทำงานจากฝุ่นและความชื้น
วันที่ที่มาพร้อม Cyclops

คุณสมบัติอันโดดเด่นนี้มีมาตั้งแต่ยุคแรกเริ่มของ Datejust ด้วยการวางกรอบวันที่ไว้ ณ ตำแหน่ง 3 นาฬิกา ซึ่งจะเปลี่ยนวันที่อัตโนมัติเมื่อเลยเวลาเที่ยงคืน มาพร้อมเลนส์ขยาย Cyclops ที่ช่วยให้มองเห็นวันที่ได้ชัดเจนยิ่งขึ้น ไปจนถึงพื้นผิวคริสตัลที่ดูสวยงาม เรียบหรู

ประเภทกรอบหน้าปัด
Rolex Datejust มีให้เลือกประเภทกรอบดังต่อไปนี้
– กรอบเรียบ
– กรอบขรุขระ
– กรอบอัญมณี
– Engine-turned (discontinued)
– Turn-O-Graph (discontinued)

สายนาฬิกา Oyster และ Jubilee
สายนาฬิกา Jubilee อันเป็นเอกลักษณ์ในปัจจุบันได้รับการออกแบบมาเพื่อ Rolex Datejust ในปี 1945 และยังคงเป็นตัวเลือกสำหรับคอลเลกชันในปัจจุบัน ในขณะที่สายนาฬิกา Oyster มีความโดดเด่นด้วยข้อต่อสามชิ้นแบบแบน และเข้าคู่กับชุดตัวล็อค Oysterclasp แตกต่างกับ Jubilee มีข้อต่อแบบโค้งมนห้าชิ้น และติดตั้งตัวล็อค Crownclasp แบบซ่อนไว้
สายนาฬิกาที่ถูกจับคู่กับ Datejust

– Three-link Oyster
– Five-link Jubilee
– Three-link President (เฉพาะรุ่น Lady-Datejust และ Datejust ขนาดกลาง)
– สายหนัง (discontinued)
– Jubilee และ Oyster ในตัว เฉพาะ Oysterquartz (discontinued)
รุ่นต่าง ๆ ของ Rolex Datejust

1940 – 1950
Ref. 4XXX, 5XXX, 61XX, 63XX

ใน Datejust รุ่นแรก ๆ มีดีไซน์ฝาหลังเป็นทรงโดม จนถูกขนานนามว่า Bubble Backs โดยในตอนนั้น Rolex ยังไม่ได้ทำการตั้งชื่อรุ่น จนกระทั่งปี 1957 Rolex Bubble Backs ถึงได้กลายเป็น Rolex Datejust ที่เรารู้จักในปัจจุบัน

Ref. 66XX
กลไก Calibre 1065

รุ่นนี้เป็นจุดเริ่มต้นของฝาหลังรูปทรงแบบที่บางกว่ารุ่นดั้งเดิม และเป็นดีไซน์ที่เราเห็นได้ถึงปัจจุบัน พร้อมกับการติดตั้งเลนส์ Cyclops ซึ่งจะช่วยขยายวันที่ได้สูงสุด 2.5 เท่า

1959 – 1977
Ref. 16XX
กลไก Caliber 3135 automatic movement

สำหรับ Datejust ยุคนี้อัปเกรดฟังก์ชันต่าง ๆ เพิ่มมากขึ้น ทั้งคุณสมบัติในการตั้งเข็มวินาทีพร้อมกับนาทีและเวลาได้ มี Marker เรืองแสงให้อ่านง่ายมากขึ้น มีการเปลี่ยนจากสารเรืองแสงจาก radium lume ไปเป็น tritium ในปี 1963

1977 – 1987
Ref. 160XX
กลไก Calibre 3035

รุ่นนี้มีฟังก์ชันวันที่แบบตั้งค่าด่วน ซึ่งผู้ใช้สามารถปรับการแสดงวันที่ได้อย่างอิสระโดยไม่ต้องปรับเข็มที่แสดงเวลา

1977 – 2000s / Rolex Datejust Oysterquartz
Ref. 17XXX, 190XX, 191XX
กลไก Caliber 5035 Quartz

กลไกควอตซ์ 5035 ของ Rolex เป็นนาฬิการะบบควอตซ์เพียงเรือนเดียวจาก Rolex ที่ต้องปรับตัวให้เข้ากับการปฏิวัติระบบควอตซ์ นาฬิกาเหล่านี้ยังมีตัวเรือนเหลี่ยมมากขึ้น และสายนาฬิกา Oyster และ Jubilee ในตัว

1988 – กลางยุค 2000
Ref. 162XX
กลไก Caliber 3135 automatic

นอกเหนือจาก Caliber 3135 ใหม่แล้ว Rolex Datejust ยังมีคริสตัลแซฟไฟร์ที่ป้องกันรอยขีดข่วนเพื่อปกป้องหน้าปัด รวมถึงการใช้เหล็ก 904L ซึ่งเป็นโลหะเกรดสูงในบางรุ่น ในช่วงปลายทศวรรษ 1990 การเรืองแสงแบบไอโซโทปถูกแทนที่ด้วย LumiNova และได้อัปเกรดเป็น Super-LumiNova อีกครั้งในทศวรรษ 2000

2000s – 2009
Ref. 1162XX
กลไก Caliber 3135 automatic

กลางทศวรรษ 2000 ถือเป็นการมาถึงของตัวเรือน Datejust ที่ออกแบบใหม่ มีตัวเชื่อมที่หนาขึ้นและสายนาฬิกาที่ได้รับการปรับปรุงใหม่พร้อมข้อต่อตรงกลางขัดเงา ข้อต่อปลายแข็ง และตัวล็อค Easylink

2009 – 2015
Ref. 1163XX
กลไก Caliber 3136 automatic

เพื่อปรับให้เข้ากับความนิยมที่เพิ่มขึ้นของนาฬิกาขนาดใหญ่ Rolex จึงเปิดตัว Datejust II ในปี 2009 ด้วยตัวเรือนขนาด 41 มม. นี่นับเป็นครั้งแรกที่ Rolex เสนอขนาดสำหรับผู้ชายนอกเหนือจาก 36 มม. ดั้งเดิม นอกเหนือจากตัวเรือนที่ใหญ่กว่าแล้ว ยังมีตัวเชื่อมที่หนาขึ้นและกรอบที่กว้างขึ้นอีกด้วย

2016 – ปัจจุบัน
Ref. 1263XX
กลไก Caliber 3235 automatic

ในปี 2016 Rolex เลิกผลิต Datejust II แทนDatejust 41 แม้ว่าจะยังคงขนาดตัวเรือนไว้ที่ 41 มม. แต่ Datejust 41 ใหม่ก็มีสัดส่วนคล้ายกับ Datejust แบบคลาสสิก และมาพร้อมกับกลไกรุ่นใหม่ Datejust 41 ถือเป็นนาฬิกาที่หรูหรากว่า Datejust II ที่ทนทานและสปอร์ต นอกจากนี้ Datejust 41 ยังมีตัวเลือกระหว่างสายนาฬิกา Oyster และ Jubilee อีกด้วย

2018 – ปัจจุบัน
Ref. 1262XX
กลไก Caliber 3235 automatic

ในปี 2018 Rolex อัปเดตคอลเลกชัน Datejust 36 ด้วยการกลไก Caliber 3235 รุ่นใหม่ ซึ่งเป็นกลไกอัตโนมัติที่ผลิตแบบ in-house สามารถสำรองพลังงานได้นานกว่า 70 ชั่วโมง และแม่นยำมากกว่าโครโนมิเตอร์ที่ได้รับการรับรองอย่างเป็นทางการถึงสองเท่า ด้วยความแม่นยำ -2/+2 วินาทีต่อวัน
Rolex Datejust รุ่นยอดนิยม

Two-Tone

สายนาฬิกาแบบสองกษัตริย์แทบจะเป็นภาพจำของ Datejust Two-Tone ดีไซน์นี้เริ่มแพร่หลายและเป็นที่รู้จักกันอย่างมาก โดยเฉพาะในช่วงทศวรรษ 1980 จนเข้าสู่ยุคปัจจุบัน หลายคนมองว่าสายนาฬิกาสไตล์สองกษัตริย์เป็นดีไซน์ที่แสดงถึงความย้อนยุค คลาสสิก เหมือนโรเล็กซ์ยุคดั้งเดิม
Wimbledon

สำหรับโรเล็กซ์รุ่นนี้เปิดตัวในปี 2019 ด้วย Rolex Datejust II และต่อมาได้ดัดแปลงเป็น Datejust 41 โดยหน้าปัด ‘Wimbledon’ มาพร้อมกับสีเทาที่ล้อมรอบโดยตัวเลขโรมันสีเขียวฟอเรสต์ เป็นรุ่นพิเศษสำหรับการเป็นผู้สนับสนุนหลักการแข่งขันเทนนิส Wimbledon มีนักกีฬาเทนนิสหลายคนสวมใส่มันเป็นประจำ โดยเฉพาะ Roger Federer ที่สวม Rolex Datejust ‘Wimbledon’ หลายครั้ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในปี 2017 เมื่อเขาคว้าแชมป์วิมเบิลดันสมัยที่แปดเป็นประวัติการณ์
Diamond Mother of Pearl

มีจุดเด่นอยู่ที่การใช้หอยมุกบนหน้าปัด โดยที่ไม่ได้ผลิตมาเพื่อผู้หญิงเท่านั้น แต่ยังมีรุ่นสำหรับผู้ชายด้วยเช่นกัน และมักจะจับคู่กับตำแหน่งบอกเวลาที่ประดับเป็นเพชรเจียระไน เป็นการออกแบบที่ช่วยให้นาฬิกาดูสะดุดตาไม่ว่าจะเป็นโอกาสลำลองหรือทางการ และทำให้ดีไซน์โดยรวมดูหรูหรามากขึ้น

จะเห็นได้ว่าการออกแบบของ Datejust เน้นไปที่ความเรียบง่ายและสง่างาม พร้อมกับความสามารถในการปรับตัวให้เข้ากับการเปลี่ยนแปลงของเทรนด์ จึงไม่น่าแปลกใจว่าทำไมตลอด 70 ปีมานี้ Rolexคอลเลคชัน Datejust ถึงได้ครองใจคนรักนาฬิกามาจนถึงปัจจุบัน รวมยลโฉมความสวยงามของนาฬิกาคอลเลคชัน Datejust ได้ที่เว็บไซต์ Siam Watch Club ร้านซื้อ ขาย เทรดนาฬิกาแบรนด์หรู มือสอง จากทั่วทุกมุมโลก

บทความนาฬิกาอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Other Blogs

omega speedmaster chronoscope olympic

Omega นับถอยหลังสู่ Olympics Paris 2024 ด้วยการเปิดตัวนาฬิการุ่นพิเศษ

Omega นับถอยหลัง 100 วันสู่การแข่งขันกีฬา Olympics 2024 ที่กรุงปารีส ด้วยการเปิดตัวนาฬิการุ่นพิเศษ 2 รุ่นเพื่อฉลองโอกาสครั้งสำคัญในประวัติศาสตร์ ซึ่งทาง Siam Watch Club จะขอพาทุกท่านไปชมนาฬิกาทั้งสองรุ่นนี้กัน

Read More »
Rolex Gen Z trend

ตลาดนาฬิกา Rolex เปลี่ยนโฉม: คนรุ่น Gen Z ขับเคลื่อนเทรนด์ใหม่

รุ่นลุง รุ่นป้าเตรียมตัวหลีกทาง หนุ่มสาวรุ่น Gen Z พร้อมทุ่มเงินเพื่อเป็นเจ้าของนาฬิกาหรู Rolex วันนี้ Siam Watch Club จะนำรายงานการสำรวจเทรนด์การซื้อขายนาฬิกาหรูของหนุ่มสาว Gen Z ซึ่งกำลังจะกลายเป็นกลุ่มลูกค้าที่มีอิทธิพลของแบรนด์ดังทั้งหลาย

Read More »
Roger Dubuis hommage condottieri

ทำไม Roger Dubuis Hommage Condottieri จึงเป็นที่ต้องการของนักสะสม

แม้ช่วงหลังๆ Roger Dubuis จะผลิตนาฬิกาที่มีความซับซ้อนมากขึ้น แต่นาฬิกาวินเทจที่เน้นความเรียบง่ายในยุคแรกๆ อย่าง Hommage Condottieri นั้นกลับเป็นที่สนใจ วันนี้ทาง Siam Watch Club จึงขอพาทุกท่านไปดูว่าทำไมนาฬิการุ่นนี้จึงเป็นที่ต้องการของบรรดานักสะสม

Read More »

Rolex Datejust 101 คู่มือละเอียดยิบก่อนตัดสินใจซื้อ

Rolex Datejust 101 คู่มือละเอียดยิบก่อนตัดสินใจซื้อ

Share This Post

Subscribe To Our Newsletter

Get updates and learn from the best

More To Explore

omega speedmaster chronoscope olympic
บทความ

Omega นับถอยหลังสู่ Olympics Paris 2024 ด้วยการเปิดตัวนาฬิการุ่นพิเศษ

Omega นับถอยหลัง 100 วันสู่การแข่งขันกีฬา Olympics 2024 ที่กรุงปารีส ด้วยการเปิดตัวนาฬิการุ่นพิเศษ 2 รุ่นเพื่อฉลองโอกาสครั้งสำคัญในประวัติศาสตร์ ซึ่งทาง Siam Watch Club จะขอพาทุกท่านไปชมนาฬิกาทั้งสองรุ่นนี้กัน

Rolex Gen Z trend
บทความ

ตลาดนาฬิกา Rolex เปลี่ยนโฉม: คนรุ่น Gen Z ขับเคลื่อนเทรนด์ใหม่

รุ่นลุง รุ่นป้าเตรียมตัวหลีกทาง หนุ่มสาวรุ่น Gen Z พร้อมทุ่มเงินเพื่อเป็นเจ้าของนาฬิกาหรู Rolex วันนี้ Siam Watch Club จะนำรายงานการสำรวจเทรนด์การซื้อขายนาฬิกาหรูของหนุ่มสาว Gen Z ซึ่งกำลังจะกลายเป็นกลุ่มลูกค้าที่มีอิทธิพลของแบรนด์ดังทั้งหลาย

Do You Want To Boost Your Business?

drop us a line and keep in touch