เปิดประวัตินาฬิกา Tudor ลูกรัก Rolex ความเหมือนอันแตกต่าง ที่ไม่ควรมองข้าม

20 สิงหาคม 2023

“เป็นเวลาหลายปีแล้วที่ผมพิจารณาถึงแนวคิดในการผลิตนาฬิกาที่ตัวแทนขายของเราสามารถขายได้ในราคาที่พอดีกว่า Rolex และยังเป็นนาฬิกาที่ได้มาตรฐานและมีความน่าเชื่อถือ เหมือนที่ Rolex มีชื่อเสียงเช่นนั้น

– Hans Wilsdorf

เชื่อว่าหลาย ๆ ท่านไม่ว่าจะเป็นนักสะสมนาฬิกาแบรนด์ดังมือโปรหรือมือสมัครเล่น คงจะเคยทราบมาบ้างว่านาฬิกาแบรนด์ Tudor คือบริษัทในเครือของเจ้าผู้ครองตลาดนาฬิกาอย่าง Rolex

ต้นกำเนิดของ Tudor ถือกำเนิดขึ้นจากฝีมือของผู้ก่อตั้งคนเดียวกันกับ Rolex โดยในเดือนกุมภาพันธ์ของปี 1926 บริษัทผู้จัดจำหน่ายและผู้ผลิตนาฬิกาชื่อ Veuve de Philippe Hüther ได้จดทะเบียนเครื่องหมายการค้าในชื่อ “The Tudor” ที่กรุงเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ให้แก่ Hans Wilsdorf ผู้ก่อตั้งแบรนด์ Rolex แต่เป็นการก่อตั้งและมอบให้กับ Veuve de Philippe Hüther เป็นผู้ดูแลต่อไป

ในยุคแรก นาฬิกา Tudor ส่วนใหญ่จะถูกออกแบบมาในสไตล์ของเรือนทรงเหลี่ยมหรือทรงถังเบียร์ ความสวยงามและคุณภาพในการผลิตล้วนแต่อยู่ภายใต้การดูแลของ Rolex อย่างใกล้ชิด

เป็นเพราะมีผู้ก่อตั้งคนเดียวกัน Tudor จึงไม่ต่างอะไรไปกับแบรนด์ลูกของ Rolex

จนกระทั่งในปี 1936 Veuve de Philippe Hüther ได้โอนกิจการทั้งหมดให้แก่ Hans Wilsdorf และเป็นยุคเดียวกันที่ทางแบรนด์เริ่มนำสัญลักษณ์ดอกกุหลาบของราชวงศ์ Tudor มาใช้ ก่อนจะค่อย ๆ เปลี่ยนมาเป็นโลโก้โล่ Tudor อย่างในปัจจุบัน เพื่อเป็นสัญลักษณ์ที่แสดงถึงความทนทานและสง่างาม

แต่กระนั้นก็ยังมีคำถามเรื่อยมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันถึงความเกี่ยวข้องของทั้งสองแบรนด์ ว่าในเมื่อทั้ง Tudor และ Rolex อยู่ในมือของบริษัทที่เป็นเครือเดียวกันนั้น มันจะมีความแตกต่างอย่างไรต่อนาฬิกาที่ผลิตออกมาทั้งสองแบรนด์

Siam Watch Club ชวนทุกท่านมาตั้งข้อสังเกตสักเล็กน้อย ระหว่างความเหมือนและแตกต่างของแบรนด์ลูก Tudor และ แบรนด์แม่ Rolex

อัตลักษณ์ที่ชัดเจนระหว่าง Tudor และ Rolex

ทั้งแบรนด์ Tudor และ Rolex เองต่างก็มีอัตลักษณ์ที่ชัดเจนเป็นของตนเอง แต่ในฐานะแบรนด์รุ่นน้องในเครือทำให้ Tudor มีความแตกต่างในด้านของการเป็นช่องทางให้กับการทดลองวัสดุใหม่ ๆ และสไตล์ที่โดดเด่นยิ่งขึ้น โดยไม่ต้องกังวลเรื่อง Brand Identity จนเกินไป

จะเห็นได้อย่างชัดเจนว่า Rolex มีอัตลักษณ์อันทรงเกียรติและดูเป็นมืออาชีพ เอกลักษณ์ของ Rolex พบได้จากมรดกที่มีประวัติศาสตร์อันยาวนาน และครองตำแหน่งที่เน้นความหรูหรามากกว่าของ Tudor ดังนั้นคอลเลคชันส่วนใหญ่ของ Rolex จึงเป็นรุ่นดั้งเดิม เช่น Submariner, Daytona และ Datejust ซึ่งมีมานานหลายทศวรรษ ยังเน้นการใช้วัสดุแบบดั้งเดิม อย่างเหล็กและโลหะมีค่า เช่น Everose gold และ Oystersteel

นอกจากนั้นการเลือกแอมบาสเดอร์ของโรเล็กซ์ก็เป็นไปอย่างพิถีพิถัน ภาพลักษณ์ของพวกเขาเหล่านั้นจะต้องมีสถานะและเป็นบุคคลที่ประสบความสำเร็จ เป็นคนที่โดดเด่นและมีชื่อเสียงในด้านต่าง ๆ Roger Federer ซึ่ง James Cameron และ Martin Scorsese แต่ละคนที่ Rolex เลือกมานั้น ถือว่าเป็นระดับตำนานเลยทีเดียว

กลับกันกับนาฬิกา Tudor แม้จะอยู่ภายใต้บริษัทแม่เดียวกัน แต่ก็นำเสนอตัวเองให้แตกต่าง ให้เห็นถึงภาพลักษณ์ที่เท่ สปอร์ต พร้อมลุย ส่งผลให้การออกแบบของ Tudor มีความโดดเด่นมากยิ่งขึ้น รวมไปถึงการเลือกใช้วัสดุสำหรับผลิตนาฬิกาที่ไม่ได้จำเจอยู่กับสิ่งเดิม ๆ จึงมีการใช้เหล็กกล้าไร้สนิม และยังทดลองใช้วัสดุที่มีความทนทานมากขึ้น เช่น บรอนซ์ ไทเทเนียม และไนลอน

ในขณะที่แอมบาสเดอร์ของ Tudor ขึ้นชื่อเรื่องภาพลักษณ์ที่โดดเด่น เอกลักษณ์ที่ชัดเจน พร้อมก้าวข้ามขีดจำกัด เช่น David Beckham ที่มีสไตล์ส่วนตัวที่โดดเด่น และ Lady Gaga ที่มาพร้อมกับดนตรีอันเร้าใจ

แม้ว่า Tudor ยังคงจัดอยู่ใน Tier นาฬิกาแบรนด์หรู ซึ่งมีความล้ำหน้าด้านดีไซน์และวัสดุมากกว่า Rolex แต่ก็ยังถูกออกแบบมาให้ดูจับต้องได้ง่ายกว่าแบรนด์แม่

ดีไซน์และสุนทรียศาสตร์

เราสามารถสังเกตได้อย่างง่าย ๆ ว่า Rolex มีการออกแบบที่สามารถทำให้คนจำได้ทันที ตั้งแต่ Rolex Datejust สุดคลาสสิกไปจนถึง Rolex Submariner ที่สง่างามและทนทาน แม้แต่คนที่ไม่สะสมนาฬิกาก็ยังจำนาฬิกา Rolex ได้ทันที

ดีไซน์นาฬิกาโรเล็กซ์รุ่นต่าง ๆ ที่มีมาตั้งแต่ยุค 1940 – 1950 มีการเปลี่ยนแปลงที่น้อยมาก มีเพียงการผลิตเชิงเทคนิคเท่านั้นที่เป็นลูกเล่นใหม่ ๆ สำหรับนาฬิกาแบรนด์อมตะนี้ อย่างไรก็ดีนักสะสมหลาย ๆ คนก็ให้ความคิดเห็นว่า การที่แบรนด์ไม่เปลี่ยนแปลงรูปลักษณ์อะไรมากมาย เพราะดีไซน์ที่คงไว้จากต้นกำเนิดนั้นเป็นดีไซน์แบบ “เหนือกาลเวลา” ที่ไม่ว่าจะยุคสมัยไหน ๆ ก็ไม่มีตกยุค

ในขณะเดียวกัน Tudor กลับเป็นแบรนด์นาฬิกาที่ทางบริษัทแม่ใช้ในการทดลองตลาด ทดลองการออกแบบ ทำให้รูปลักษณ์ของ Tudor ในบางรุ่นมีความแตกต่างด้านวัสดุและการออกแบบอยู่อย่างเห็นได้ชัด

แม้ว่านาฬิกาบางรุ่นอย่าง Tudor Submariner จะได้รับแรงบันดาลใจอย่างเปิดเผยจากโรเล็กซ์ แต่สำหรับ Tudor จะรู้สึกได้ถึงความ Adventure มากกว่า ผ่านการใช้วัสดุที่เป็นบรอนซ์ สายนาฬิกาผ้า รวมถึงการดีไซน์ที่ดูมีดีเทลหรือยุ่งเหยิงกว่า หาไม่ได้ในนาฬิกาโรเล็กซ์ซึ่งเปี่ยมไปด้วยความคลาสสิก

การเลือกใช้วัสดุและการผลิต

Rolex เป็นแบรนด์ที่มีชื่อเสียงในการใช้วัสดุพรีเมียมและเป็นวัสดุที่ดีที่สุดเท่านั้น ถึงขั้นที่โรงงานนาฬิกาสามารถผลิตโลหะเป็นของตัวเองขึ้นมาได้ นับตั้งแต่ปี 2005 ที่โรเล็กซ์ได้สร้างสรรค์โลหะผสมทอง แพลทินัม สแตนเลสที่ใช้สำหรับโรงงานนาฬิกาของตัวเอง

ทั้งยังมีวัสดุจากทอง 18k เพื่อให้ผู้สวมใส่ได้รับความรู้สึกหรูหราและให้นาฬิกาออกมาทนทาน แข็งแรงที่สุด ทั้งยังใช้ Oystersteel ในนาฬิกา ซึ่งเป็นโลหะผสมที่พัฒนาขึ้นเป็นพิเศษซึ่งเป็นของตระกูล Steel 904L

ในขณะที่แบรนด์อื่น ๆ มักใช้โลหะผสมสแตนเลส 316L มาตรฐานสำหรับนาฬิกาโดยทั่วไป หรือการใช้วัสดุจาก supplier ในการผลิต จึงไม่น่าแปลกใจ หากการเลือกใช้วัสดุระดับพรีเมียมสูงตามมาตรฐาน จะทำให้มูลค่าของแบรนด์แม่และลูกแตกต่างกันอยู่พอประมาณ

อย่างไรก็ตาม ในเรื่องคุณภาพการประกอบ ความสามารถทางเทคนิคที่ใช้ผลิตนาฬิกาสำหรับแบรนด์ Tudor ยังคงเหมือนกับนาฬิกา Rolex ทุกประการ จึงมั่นใจได้เลยว่านาฬิกาจาก Tudor มีความแม่นยำและทนทานเป็นอย่างสูง

Rolex และ Tudor อยู่ใน Tier นาฬิกาแบรนด์หรูทั้งคู่และอยู่ในแบรนด์ที่ขึ้นชื่อเรื่องการผลิตนาฬิกาชั้นเลิศ ทว่าราคาระหว่างสองแบรนด์แม่-ลูก ก็แสดงให้เห็นถึงความแตกต่างกันค่อนข้างมาก

Tudor มีช่วงราคาที่เริ่มต้นเบากว่า และเป็นหนึ่งในตัวเลือกอันดับต้น ๆ สำหรับผู้ที่เพิ่งเริ่มต้นซื้อและสะสมนาฬิกาแบรนด์หรู

ในทางกลับกัน Rolex มีชื่อเสียงด้านราคาระดับ high-end เพราะราคาของโรเล็กซ์มักจะสูงกว่านาฬิกา Tudor ถึงสองเท่า

ยกตัวอย่าง Rolex Oyster Perpetual กับ Tudor Black Bay โดยเฉพาะรุ่นสแตนเลสสตีล ถือเป็นรุ่นเริ่มต้นของแบรนด์

สำหรับราคา Retail ของ Rolex เริ่มต้นสูงมาก โดย Rolex Oyster Perpetual มีราคาอยู่ที่ 210,000 โดยประมาณ (ราคาในเดือนเมษายน 2023)

ในขณะเดียวกัน Tudor กลับมีราคาที่ต่ำกว่ามาก โดย Tudor Black Bay 36 มีราคาอยู่ที่ราว ๆ 90,000 บาทเท่านั้น

ระหว่าง Tudor vs Rolex ควรเลือกอะไรดี?

ด้วยความคล้ายคลึงกันที่นาฬิกาทั้งสองแบรนด์มี คุณจะพบว่าทั้ง Tudor และ Rolex ต่างสามารถมอบประสบการณ์บอกเวลาระดับพรีเมียมให้คุณได้เต็มที่

แต่ถ้าหากต้องการนาฬิกาหรูหรา ไฮเอนด์ มีระดับ บ่งบอกถึงการประสบความสำเร็จในชีวิต เราเชื่อว่านาฬิกา Rolex สักรุ่นคือสิ่งที่คุณกำลังมองหา ในทางกลับกัน หากคุณต้องการความมีระดับที่มาพร้อมดีไซน์ที่ดีท้าทายและจับต้องได้มากขึ้น เราขอแนะนำว่า Tudor คือทางเลือกที่ดีที่สุดสำหรับคุณ

ท้ายที่สุดแล้วเราไม่อาจให้คำตอบที่ชัดเจนได้ว่า ตกลง Tudor และ Rolex แบรนด์ไหนดีกว่ากัน เพราะท้ายที่สุดแล้วความเหมาะสมนี้ ขึ้นอยู่กับไลฟ์สไตล์และการชื่นชอบส่วนบุคคล เนื่องจากทั้งสองแบรนด์ขึ้นชื่อเรื่องคุณภาพชั้นยอดและได้รับการยอมรับอย่างสูง

การที่จะตัดสินใจได้นั้น ควรตัดสินใจจากรุ่นนาฬิกาที่ตรงใจมากที่สุด ซึ่งคุณสามารถรับชม Tudor และ Rolex รวมถึงนาฬิกาแบรนด์ดังระดับโลก หลากหลายแบรนด์ หลากหลายรุ่นได้ที่เว็บไซต์ Siam Watch Club ด้วยคุณภาพในการบริการและความชำนาญด้านนาฬิกาของเรา จะช่วยให้คุณค้นหานาฬิกาที่ตรงใจได้แน่นอน

ใส่ความเห็น ยกเลิกการตอบ

บทความนาฬิกาอื่นๆ ที่น่าสนใจ

Other Blogs

ลงทุน นาฬิกาทองคำ ดีกว่า นาฬิกาแสตนเลส ยังไง

เปิดประวัตินาฬิกา Tudor ลูกรัก Rolex ความเหมือนอันแตกต่าง ที่ไม่ควรมองข้าม

Share This Post

Subscribe To Our Newsletter

Get updates and learn from the best

More To Explore

คลังความรู้นาฬิกา

ทำไมลงทุนกับนาฬิกาทองจึงคุ้มค่ากว่านาฬิกาสแตนเลส

Tom 29 พฤษภาคม 2024

บทความ

ดำดิ่งสู่โลกใต้ท้องทะเลไปกับ Panerai Submersible

Tom 25 พฤษภาคม 2024

แบรนด์นาฬิกา (A-C)

แบรนด์นาฬิกา (D-H)

แบรนด์นาฬิกา (I-P)

แบรนด์นาฬิกา (R-Z)